เวรุนาศ (Verunat)

เวรุนาศ (Verunat)

Wednesday, January 19, 2011

เวรุนาศ (Verunat)

เหนี่ยวรั้งคำสัญญา มิทันสิ้นประดล สิหดล เร่งรุดจากไปในเพลา ก่อนทิวา ฟากฟ้ามาเยือน
แล้วสิ้น สิ้นแล้วน่ะ กลับไม่สิ้นทุกสิ้นสรรมาเยือน ชะลอยกลมเกลี้ยง ดั่งทิวาหล ยลมีดบีบใจ
สิหดล ทุรทด อดทน กลั้น กล้า เบ่งผจัญ ยลโลกให้โปร่งใส ด้วย ปัญญาแผ่นฟ้า แผ่นไกว
ด้วยหัวใจร้อนรัด ที่จักตรม
ณ เพลาจะยล เวรุนาศ เจ้านางน้อย  นั่งเม่อเหมียงมองลอย  ชะมอยตาคว้า สิหดล  นางเจ้านิ่งนึก จิตประหวั่น  เจ้าจอมขวัญ หวั้นมีภัย  เนื่องรักทั้งสองนั้นเป็นภัย ต่อ"คิมหันต์" เจ้า ผู้เฝ้าครองแห่งจอมราชา
เฝ้าคอยประโลมห่มรักที่เชยชม บัด เวรุนาศ เจ้านางน้อยมิเคยใฝ่ชม จิตเจ้านั่นเพียงชม บุรุษน้อย สิหดล เจ้าดวงใจ รักสุดเสน่หา รักหาเพียงกายาเท่านั้น ไม่ รักสุดกู่ก้องทั้วล้าไกล มิเคยหวั่นภัยมาโรมรัก พลันเสียงเรียบย่างร่างลงดิน เจ้านางน้อย เวรุนาศพลันได้ยิน
" เวรุนาศ ข้าอยู่นี้ เวรุนาศ ข้าอยู่นี่" เสียง สิหดล เร้าเพื่อพะเนาครวญ
"
พี่เจ้า น้องเฝ้าจวนเพลาใกล้สายัน" เวรุนาศ ถลันร่างเพียงซบ อกอุ่นที่ซุ่มรัก
"
น้องยา ใยเล่าเฝ้าเพียงครวญ ใจข้าใยกลับหวลเพื่อ ชวนเจ้า เฝ้า ประโลม ด้วยทางแห่งย่างก้าว
ทุกท่วงเท้าเป็นมหันต์ภัย จากเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ เยี่ยง คิมหันต์"
วจีกล่าวแห่ง สิหดล บุรุษผุ้ทระนง เมียงมองทางยอดกัลยา เวรุนาศ เจ้านางน้อย ด้วยดวงตาที่เร่าร้อนแห่งไฟเสน่หาสุมทรวง ทีท่วมท้นเอ่อทรวง  ครั้นได้เชยอนงค์ คนรัก  จักเจียนจักคล้ายมลาย
ทุกข์ทรวง  โอ! หนอรักที่เฝ้าตามทวงหวง ช่างแสนซ้ำทรวงระทวงหทัย   
พี่เจ้า  สิหดล น้องเพียงกัลวลไป เพราะหทัยเพียงละเมอทม รักพี่แทบชีวาลัย  รักด้วยหทัยที่แน่แท้
ไม่ห่วงทางที่ผันแปร  แม้จะโดนรังแกจากกล ลวง รักข้าดุจดั่งปฐพี  มิหลีกหนีให้พ้น แต่จักทนอยู่ทุกแห่งหน  เพื่อเชิญเจ้าพเนา นอ  เวรุนาศ  เจ้านางน้อย  เสียงพลอยสั่นเครือกับรักที่คลุมเหลือด้วยม่านบน  ท้นบารมีมาร  ร่างอรชรช้อย  ชโอดองค์  ผิวพรรณพรหมเช่นเด่นกระจันทร์ ปากเพรียวเรียวดังแสงจันทร์ แววตาดั่งพรหมสร้างสรรค์  งามแรกแย้มกระแจจันทร์ รับริ้วคิ้วพรรณดั่ง
ครึ่งเดือน  คมหน้าผกาน้อง  น่าเชยชิดพิศพิราศ   ดวงหน้าคมโฉมยลโฉมโน้มพรรณ พระจันทร์นวล สรวลไห้คร่ำครวญ  รักที่ฟักนวล บัดดั่งโซ่ตรวนที่โศกตรม  ดวงตา นางน้อยพลอยซ้ำสุดระกำ
นั้นสุดทน รักหนอที่รอทน  จนทนสู้มิรู้ตาย เสียงสะอื้นอึก สุดระทึกซ้ำ  ดั่งหนามแทรกแตกตำ
ซอกซ้ำทรมาน
เวรุนาศ น้องเจ้า อย่าเศร้าเร้ารัญ เจ้าเป็นของข้ายิ่งกว่า ดวงชีวัน  หาสิ่งใดกันเทียนเทียบ น้องเจ้า เจ้าอย่าซ้ำพี่ระกำซ้ำกว่าเจ้า  รักฤาที่เราเฝ้าฟัก  จะมิหักเพียงเวลามาแยกยล  เก็บน้ำตายอดยาหยี
พี่นี้เป็นห่วง  เศร้าไปใยพวง  เพราะพี่มีเจ้ายอดดวงใจ ให้พี่จุมพิตพินิศเจ้า แทนที่ซึมเศร้าเป็นไร
พิราศแล้ว โอบกอดบุรุษนั่น ปั่นเพิ่มรนรักที่ทักทวง  ร่างน้อยพลอยล่องลม สร่างพลิ้วลิ้วลมรส
เปลื้องหมดด้วยระไหว  เจ้านางน้อยชม้อยอาย บัดแรงรักมิลดลา  บุรุษล่ำกำยำ ร่างรัดสัน กับท่วงทันเสน่หา  ประทับริมปากทั่วตัวอนงคา  ประทับลงตรงถันเจ้าที่เล้าโลม นิ่มนวลสุดระทัย หัวใจรักเล้าโลมรัญ  ชมโฉมเจ้าอนงค์ถัน ด้วยพิไลแห่งจุมพิต  เวรุนาศกระเส่าเพร่าด้วยรสเร้ารวญ สองแขนนางโอบอัดที่รัดจวน  ทั้งสองดวงเป็นหนึ่งเดียว  ใบหน้าบุรษหนุ่มลุ่มลิ้มรสสดสวาสเจ้า  ประทับใบหน้าทั่วร่างนงเยาว์ ระเลาเสียงรั่วทั่วสอางค์  ทั้งสองรัดกอดพนอดเนา  รักเฝ้าผ่านแสนเนินนาน
ดั่งดวงฟ้าที่เบิกกว้าง บัดพลันแสนสั้นนักแล

  เวรุนาศ น้องข้า เจ้าจงตื่นเถิดหนายอดยาใจ  เพลาใกล้ที่พี่ไป เจ้าอย่าเรไรดวงใจพี่สิหดลปลุก
ตืนข้างหูเจ้าโฉมตรู นงเยาว์ พลันมือลูบไล้ใฝ่เสน่หาทั่วกายา
 พี่เจ้าสิหดล  จนเพลาแล้วเล่า ใจข้าพลันเศร้า ที่พี่เจ้าจะจากข้าไป
 เวรุนาศ  น้องพี่  เราจากพลันกลับมาใหม่  จะห่วงไปใยเจ้า
พี่ข้า! น้องใจหายมิคลายเป็นห่วง  กลัวพี่เจ้าจะเผลอลวง สัญญาที่กล่าวไว้
 น้องพี่ อย่ากล่าวเช่นนี้ไปไกล  ด้วยหทัยมีเพียงใจที่เฝ้ารอ
 เช่นนั้นพยานรักแห่งจักเฝ้ารอ ตราบชั่วนิรันดร์ ถ้าพี่สิหดล หมดลมรักแห่งข้า มิปรารถนามาเยี่ยงกราย  หทัยข้าก็จักวาย ไม่ขอรักชายใดในโลกา ข้าจักรักพี่คนเดียวชื่อเดียวนิรันดร์ ขออย่าพี่เจ้าทำข้าซ้ำทรวง แห่งห้วงมหรรณ เพียงเกิดตัวข้าเชยใดในโลกา  สิปาวารณา ตราบตายเอกาชั่วนิรันดร์ ถ้าพี่รักมั่นจักกล้าสาบาน  ชั่วนิรันดร์กาลหาดเว้นจากตัวข้า  พี่เจ้าจักไม่เคียงใครชื่อใดในโลกาเช่นกัน  ขอเทพยดาแห่ง อุโณลา คิมหันต์ จงยื่นเป็นประกัน รักสองข้านั้นจักมั่นคง
น้องพี่!รักนี้เพื่อเจ้าผู้เฝ้าโหยหา  รักสัตย์ดั่งสัญญาสองวิญญาร่วมพาหนึ่งเดียว  แห่งเทวา อโณลา คิมหันต์  จักแจ้งพลันตัวข้านั้นจักมั่นคงตลอดไป   ครั้นสิ้นสองเขาอธิษฐาน  ญาณแห่งฟ้าเทวดามั่น  รับรู้ในทันพลัน  เสียงอึกทึกระลึกไกลทั่วทั้งไพศาล  รักสองมีพยานมิเพียงสบถบานเท่านั้นเลย
ปราดเปรี้ยง  เสียงแซ่ซ้อง ปราศจากข้องแห่งพายุหัน  บัดพลันท้องฟ้า กรี๊ดกราย สายพยาน เป็นพยานใจดวงน้อยคล้อยกัลยา  สะเทือนแท้แน่แท้เจ้า ถ้าพลันในหนึ่งสอง  มิปองรัก ดั่งฝักคำ  รักนักจักทำ ระกำชั่วฟ้ามลาย
พี่ท่านครั้นเพลาเร็วพลัน  น้องนั้นจักคืน อุโณลา  คิมหันต์  มิเช่นนั้นเจ้า ราชันคงโกรธพิโรธคง
 เวรุนาศ น้องข้า  รอยจุมพิตที่พี่พินิจประคองกอดรอยนั้นพลิ้มพลอดทุกเพลา เจ้าอย่ากังวลหนา รักข้านั่นจักมั่นคง
 พี่เจ้า สิหดล ข้ารีบระรนเพื่อลา  แล้วคอยเพลาหน้าข้าจักมานี่ที่เดิม
  เจ้าพี่ ถ้าเช่นนี้พี่จากจร ดวงสมรจง มั่นคง รักแห่งฟ้าทิวาวาย
สองเร่งเพ่งนิจสู่ที่หมายเพื่อกรายจากที่แห่งรังรวง   สิหดลประวนระวังไหว  ด้วยหัวใจไม่เชือ่มั่น  นี้เพราะเป็นเขต คิมหันต์ ใครผู้นั้นย่างกรายจักมลายพลัน  เดชแห่งสิงขร จอมราชา  มิผู้ใดกล้าประจัญ  บัด สิหดล มิหวั่น  เนื่องรักนั้นรุมเร้าที่เผาทรวง

ประทาน ท่านมหาชายา เวรุนาศ  ตัวท่านจรจากที่ใด  ตัวข้านั้นห่วงใย  รีบถามไถ่ทั่วนคร
นางขันธมาผู้บูชา เวรุนาศ รับใช้เบื้องบาท เอ่ยถาม ตามกังวล
ขันธมา ข้าจักแวะอุทยาน ดอกไม้ ช่างแสนพิไล ข้างวัง  สวนสมชมเด็ดจัง  เหนี่ยวรั้งข้ามิอยากจากลา  กลีบดอกเกสรเจ้า ผึ่งภมรรุมเร้าช่างน่าแหนหวง  บัดทำข้าพลินไปจนเจียนได้เพลาล่วง
สุริยาเลื่อนลอยลง  เจ้าอย่ากังวล  เพียงแค่ข้ายลผกางาม  นั้นเพียงทำให้ข้าผลีผลาม ลืมเลือนเจ้าที่เหย้ามา   ตรัสแห่ง มหาชายาเจ้า เวรุนาศ  เปรื่องปราศทะนงสิ้นสงสัย นางสาวใช้มิชักไป่ เพราะแน่ใจนางกัลยา  เพียงประกบมือสองข้าง เอื้อมจับข้างสองช้ายขวา  เพื่อระรื่นเปื้อนไร้ริ้วรอยพา มาให้สิ้นเปลือง   สะอาดสะองค์ ตระตรงเฉก  พิเลศแล้วสุดหมาย  นางขันธมา  พลันชำระกาย เจ้าชายา คิมหันต์   
    เจียนแล้วเพลาพลบ  ประกบเจ้าเฝ้าราชันย์ ผู้หยิ่งแห่ง  อโณมา คิมหันต์ ราชันย์ผู้ทระนง
เวรุนาศ สุดเสน่หาเป็น  มหาชายา ผู้หยิ่งใหญ่  มิเหมือนตอน  แคว้น ม่อนแก้ว  เจ้านางน้อยแก้ว
เป็นกัลยา ของ  ม่อนแก้ว และ ม่อนใจ สองเจ้าครองแคว้นที่มิยิ่งใหญ่  มีเพียงเจ้านางน้อยไซร้ ที่ใฝ่ขวัญ   เวรุนาศ  ฉลาดล้ำ  ช่างจดจรรนาจา  ผู้บังเกิด ดังฟ้าแผ่นดินไกล   งามฉโอดองค์นงคราญใน  งามทั้งจิตใจทิยพดล  ครั้นเพียงพะยอมเริ่มเบ่งคง   สิหดลเจ้าก็เข้ามา  รักแรกรักสุดจะหัก  รักประจักษ์ทั้งส่องหล้า  สองรักมั่นรักพา  บัดสวรรค์เสแสร้วแกล้งทุรทน 
      อันความพี่ประเสริฐเลิศคน  เป็นมารผจญใจราญ  เกียรติศัพท์  เจ้านางน้อย   พลอยเข้าหูผู้  คิมหันต์ พลันนักจักท่วงทัน  พึ่งแย่งชิงเป็นของตน  เดชอำนาจแลบารมี  มิมีผู้ใดกล้าผจญ 
จักน้อมจำนน ซึ่งซ้ำทรวง
     คิมหันต์ จอมราชันย์ มีพลันมักจักส่งสาร  ต้องการ ศิระการ แห่ง แคว้น  ม่อนแก้ว ไม่เช่นนั้นแล้ว แคว้นจักมีภัย  จงส่งยอดหทัยมาเป็นขวัญ  เวรุนาศเจ้านางน้อย  กลอยชีวัน เป้นกำนัลแด่ข้าผู้ท้าชน      ศึกใหญ่ยากจักหาญ เพราะราชันย์เจ้า เฝ้าห้อมล้อมสองเจ้าหลวงแสนห่วงใยในประชาทั่วหล้าพลัน   กับแสนรักเจ้าจอมขวัญ เวรุนาศ  เจ้าดวงใจ แสนห่วงใย ปวดร้าวทรวงจำยกให้  ผู้หยิ่งใหญ่แห่งคิมหันต์ราชันย์ สองเจ้าหลวงยา แห่ง แคว้น ม่อนแก้ว ประดวงแก้วให้คิมหันต์  ด้วยทั้งรักและห่วงใยพลัน  แต่สุดอดทนกลั้นเพื่อพารา